ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ แต่ยังคงถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์
ณ เวลา 23.08 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ดีดตัวขึ้น 5.50 ดอลลาร์ หรือ 0.43% สู่ระดับ 1,291.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นในช่วงบนของกรอบ 109 เยน โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในวันนี้
ณ เวลา 18.14 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.12% สู่ระดับ 109.71 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.18% สู่ระดับ 122.18 เยน และขยับขึ้น 0.08% สู่ระดับ 1.1138 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.02% สู่ระดับ 98.13
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากดิ่งลงวานนี้ ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
สื่อรายงานว่า รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาที่จะใช้มาตรการจำกัดการส่งออกแร่หายากไปยังสหรัฐ และอาจใช้มาตรการตอบโต้อื่นๆ ในอนาคต ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลว่า จีนอาจใช้แร่หายากเป็นอาวุธในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ
ขณะนี้ จีนเป็นประเทศผู้ผลิตแร่หายากรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยแร่ดังกล่าวเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสมาร์ทโฟน และรถยนต์ไฟฟ้า
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความล้มเหลวในเดือนนี้ โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนทำการตอบโต้ ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.
นอกจากนี้ สหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ทำให้บริษัทไม่สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐ และสหรัฐยังได้เตรียมพิจารณาเพิ่มบัญชีรายชื่อบริษัทจีนที่จะถูกขึ้นบัญชีดำ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังพิจารณาที่จะขึ้นบัญชีดำบริษัทจำหน่ายกล้องวงจรปิดรายใหญ่ 5 รายของจีน ซึ่งรวมถึงบริษัท Hikvision Digital Technology และ บริษัท Dahua Technology ด้วยข้อหากระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน