ราคาทองปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากความไม่มั่นใจของนักลงทุนก่อนการเจรจาการค้าระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในวันพรุ่งนี้
ณ เวลา 23.14 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ขยับขึ้น 2.40 ดอลลาร์ หรือ 0.17% สู่ระดับ 1,414.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองพุ่งขึ้นกว่า 8% ในเดือนนี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซนต์มากที่สุดเมื่อเทียบรายเดือนนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2559
นอกจากนี้ ราคาทองยังมีแนวโน้มดีดตัวขึ้น 6 สัปดาห์ติดต่อกัน
ราคาทองทะยานขึ้นมากกว่า 80 ดอลลาร์ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
นักลงทุนไม่ได้คาดหวังสูงนักว่า การเจรจาการค้าระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สึ จิ้นผิงในวันพรุ่งนี้ จะส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายยุติการทำสงครามการค้าระหว่างกัน
ทางด้านปธน.ทรัมป์ปฏิเสธข่าวที่ว่า เขาได้ให้สัญญาต่อจีนว่า สหรัฐจะผ่อนผันการเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ต่อสินค้านำเข้าจากจีนออกไปอีก 6 เดือน
ต่อข้อถามที่ว่า เขาได้ให้สัญญาต่อปธน.สี จิ้นผิงว่า สหรัฐจะผ่อนผันการเก็บภาษีครั้งใหม่เป็นเวลา 6 เดือนต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์หรือไม่ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "ไม่"
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์มีกำหนดพบกับปธน.สี จิ้นผิงในวันพรุ่งนี้ เวลา 11.30 น.ตามเวลาญี่ปุ่น หรือ 09.30 น.ตามเวลาไทย นอกรอบการประชุมสุดยอด G20 ที่นครโอซากาของญี่ปุ่น
การประชุมทวิภาคีระหว่างผู้นำสหรัฐและผู้นำจีนในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ถูกจับตามองมากที่สุดในการประชุมสุดยอด G20 เนื่องจากจะเป็นการชี้ชะตาว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะสิ้นสุดลง หรือจะยังคงยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน และเศรษฐกิจโลกต่อไป
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่จีนระบุว่า ปธน.สี จิ้นผิงเตรียมเสนอเงื่อนไขในการยุติสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐให้แก่ปธน.ทรัมป์ ในระหว่างที่ผู้นำทั้งสองพบปะกันในวันพรุ่งนี้
ในบรรดาเงื่อนไขที่จีนเรียกร้องต่อทางสหรัฐ ได้แก่ การให้สหรัฐยกเลิกคำสั่งห้ามการขายเทคโนโลยีของสหรัฐให้แก่บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ รวมทั้งสหรัฐจะต้องยกเลิกการจัดเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนทั้งหมด และยกเลิกความพยายามที่จะให้จีนซื้อสินค้าจากสหรัฐมากขึ้น