สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นได้สร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ โดยดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในเดือนมิ.ย.
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 20.80 ดอลลาร์ หรือ 1.46% ปิดที่ 1,400.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 33.5 เซนต์ หรือ 2.18% ปิดที่ 15.001 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 32.20 ดอลลาร์ หรือ 3.82% ปิดที่ 811.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.60 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,564.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำร่วงลง หลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.56% แตะที่ 97.31 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าจะลดความน่าดึงดูดของทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด ได้ลดความหวังที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมากในเดือนนี้ และ ได้ช่วยหนุนดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 224,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งดีดตัวขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า จะเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่ง หลังขยายตัวเพียง 72,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
ตัวเลขการจ้างงานเดือนมิ.ย. นับว่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่ตัวเลขเดือนพ.ค. ถูกทบทวนปรับลดลงจากรายงานเบื้องต้นที่ 75,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานเดือนมิ.ย. ขยับขึ้นสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2512