ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้นทะลุ 1,410 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังการกล่าวถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรสในวันนี้ ได้ทำให้นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนนี้
ณ เวลา 23.50 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ดีดตัวขึ้น 12.20 ดอลลาร์ หรือ 0.87% สู่ระดับ 1,412.70 ดอลลาร์/ออนซ์
นอกจากนี้ ราคาทองยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
นักลงทุนในตลาดการเงินคาดการณ์มากขึ้นว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 ก.ค. หลังจากที่นายพาวเวลกล่าวแถลงการณ์ต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ โดยได้ส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ในการสำรวจล่าสุด พบว่า FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 ก.ค. โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 73.4% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% จากปัจจุบันที่ระดับ 2.25-2.50% และมีโอกาส 26.6% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 1.75-2.00%
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 93% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% และมีโอกาสเพียง 7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 1.75-2.00%
ทั้งนี้ นายพาวเวลระบุว่า เฟดจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยลบหลายประการ เช่น ความตึงเครียดทางการค้า และความวิตกต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก กำลังถ่วงแนวโน้มเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังระบุว่า การลงทุนของภาคธุรกิจในสหรัฐได้ชะลอตัวลงในระยะนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่เฟดกำหนดไว้ที่ระดับ 2%
"มีความเสี่ยงที่ภาวะเงินเฟ้อที่อ่อนแอจะยังคงดำเนินต่อไปนานกว่าที่เราคาดการณ์ไว้" นายพาวเวลกล่าว
ประธานเฟดตั้งข้อสังเกตว่า เศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวค่อนข้างดีในไตรมาสแรก ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ดีดตัวขึ้นในไตรมาส 2 หลังจากปรับตัวอย่างอ่อนแอในไตรมาสแรก
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลระบุว่า "เศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐได้ชะลอตัวลงในไตรมาส 2 ขณะที่กรรมการเฟดมีความเห็นพ้องกันว่า มีปัจจัยสนับสนุนมากขึ้นต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงินมากกว่านี้ ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมา ข้อมูลต่างๆที่เฟดได้รับต่างบ่งชี้ว่า ความไม่แน่นอนที่เกิดจากความตึงเครียดทางการค้า และความวิตกต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ยังคงถ่วงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ"