ราคาทองดิ่งลง 2% หลุดระดับ 1,500 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยนักลงทุนพากันเทขายทอง หลังคลายความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่สหรัฐชะลอการเรียกเก็บภาษีสินค้าจีน
ทั้งนี้ ราคาทองสปอตร่วงลงแตะ 1,493.64 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากพุ่งแตะ 1,534.31 ดอลลาร์ในช่วงแรก ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2556
ส่วนราคาทองในตลาดฟิวเจอร์ ณ เวลา 23.34 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 5.10 ดอลลาร์ หรือ 0.34% สู่ระดับ 1,512.10 ดอลลาร์/ออนซ์
นอกจากนี้ ราคาทองยังถูกกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์พุ่งขึ้นกว่า 1% เทียบเยน หลังจากที่สหรัฐประกาศชะลอการเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนออกไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค. จากเดิมที่มีกำหนดในวันที่ 1 ก.ย. พร้อมกับถอดสินค้าบางประเภทออกจากบัญชีรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่
ณ เวลา 22.17 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 1.11% สู่ระดับ 106.46 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.90% สู่ระดับ 119.10 เยน และร่วงลง 0.23% สู่ระดับ 1.1186 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.34% สู่ระดับ 97.71
ทั้งนี้ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ประกาศถอดสินค้าบางประเภทออกจากบัญชีรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ โดยระบุถึงปัจจัยด้านสุขภาพ, ความปลอดภัย และความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งสินค้าดังกล่าวจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 10%
นอกจากนี้ USTR ยังได้ระบุว่า การเก็บภาษีต่อสินค้าประเภทอื่นจะมีการชะลอออกไปจนถึงวันที่ 15 ธ.ค.
ทั้งนี้ สินค้าที่ได้รับการชะลอการจัดเก็บภาษี ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ คอนโซลวิดีโอเกม ของเล่น จอมอนิเตอร์ รองเท้า และเสื้อผ้า
การประกาศดังกล่าวของ USTR มีขึ้นในวันนี้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนมีกำหนดเจรจาการค้าในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า