ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่งลงกว่า 1% ใกล้หลุดระดับ 1,500 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังราคาทองพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ราคาทองยังสูญเสียความน่าดึงดูดในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้น และการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ณ เวลา 20.04 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 15.70 ดอลลาร์ หรือ 1.03% สู่ระดับ 1,507.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นก็ได้ลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ดีดตัวสู่ช่วงกลางในกรอบ 106 เยน ขณะที่นักลงทุนพากันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า จีนและเยอรมนีจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ณ เวลา 19.49 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.23% สู่ระดับ 106.60 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.25% สู่ระดับ 118.29 เยน และขยับขึ้น 0.06% สู่ระดับ 1.1096 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.10% สู่ระดับ 98.24
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐขยายระยะเวลาในการอนุญาตให้บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีของจีน สามารถซื้อสินค้าจากบริษัทสหรัฐได้อีก 90 วัน ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ทั้งนี้ นายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐ กล่าวยืนยันในวันนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐจะขยายระยะเวลาในการอนุญาตให้บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีของจีน สามารถซื้อสินค้าจากบริษัทสหรัฐได้อีก 90 วัน เพื่อให้หัวเว่ยสามารถให้บริการต่อลูกค้าที่มีอยู่ในขณะนี้
นายรอสส์กล่าวว่า ใบอนุญาตชั่วคราวดังกล่าวจะมีอายุ 90 วัน ขณะที่ใบอนุญาตเดิมจะหมดอายุลงในวันนี้
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐอนุญาตให้หัวเว่ยซื้อสินค้าจากบริษัทสหรัฐในเดือนพ.ค. หลังจากที่ได้ขึ้นบัญชีดำบริษัท เพื่อลดผลกระทบที่จะมีต่อลูกค้าของบริษัท
นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮลในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด อาจส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.