ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากร่วงลงในช่วงแรก โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้
ณ เวลา 21.27 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ดีดตัวขึ้น 5.50 ดอลลาร์ หรือ 0.37% สู่ระดับ 1,509.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ปรับตัวลงในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐที่ชะลอตัวในเดือนก.ย. ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 81.8% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 29-30 ต.ค.
มีการคาดการณ์กันว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้จะไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ท่ามกลางปัจจัยแวดล้อมที่ไม่ได้ส่งสัญญาณบวกต่อการเจรจา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีช่วยของสหรัฐและจีนได้เริ่มต้นการเจรจาการค้ารอบใหม่เมื่อวานนี้ เพื่อปูทางสำหรับการเจรจาการค้าระดับรัฐมนตรีที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้
เจ้าหน้าที่เจรจาการค้าของจีนราว 30 คน นำโดยนายเหลียว หมิง รมช.คลังของจีน ได้เดินทางมายังสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เมื่อวานนี้ เพื่อทำการเจรจาการค้าเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะเจรจากันเกี่ยวกับการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี, การขโมยสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา, การตั้งกำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษี รวมทั้งประเด็นในด้านการเกษตรและภาคบริการ และการบังคับใช้มาตรการต่างๆตามข้อตกลง
อย่างไรก็ดี การเจรจาของเจ้าหน้าที่การค้าจากทั้งสองฝ่ายเมื่อวานนี้เป็นไปอย่างตึงเครียด โดยไม่มีฝ่ายใดส่งสัญญาณการประนีประนอม
สหรัฐและจีนจะเจรจาการค้าในระดับรัฐมนตรีในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ที่กรุงวอชิงตัน โดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีน ขณะที่ฝ่ายสหรัฐนำโดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR)
สื่อรายงานว่า เจ้าหน้าที่จีนไม่ต้องการทำข้อตกลงการค้าในวงกว้างตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องการ โดยนายหลิว เหอ กล่าวว่า ข้อเสนอของเขาต่อทางสหรัฐจะไม่รวมถึงคำมั่นสัญญาของรัฐบาลจีนในการปฏิรูปนโยบายอุตสาหกรรม หรือการให้เงินอุดหนุนของภาครัฐ
ทางด้านหนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานว่า จีนได้ลดระดับความสำคัญของการเจรจาการค้ากับสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งเป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีน จะไม่มีตำแหน่ง"ผู้แทนพิเศษ"แต่อย่างใด ซึ่งบ่งชี้ว่า นายหลิวไม่ได้เป็นตัวแทน หรือไม่ได้รับการมอบหมายเป็นพิเศษจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ประกาศขึ้นบัญชีดำต่อบริษัทเทคโนโลยีของจีน 28 แห่ง โดยอ้างว่าบริษัทเหล่านี้มีส่วนในการละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวมุสลิม ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในเขตปกครองตนเองซินเจียง
การประกาศดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทจีนด้วยเหตุผลด้านสิทธิมนุษยชน จากเดิมที่เคยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ อย่างที่ได้เคยทำกับบริษัทหัวเว่ย
นอกจากนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กยังระบุว่า ทำเนียบขาวกำลังหารือเกี่ยวกับการปิดกั้นมิให้กองทุนบำนาญของรัฐบาลสหรัฐเข้าลงทุนในจีน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 17-18 ก.ย.ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้