สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งสถานการณ์ที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,488.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.4 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 17.602 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 3.7 ดอลลาร์ หรือ 0.41% ปิดที่ 892.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7.70 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,725.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.05% แตะที่ระดับ 97.35 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าได้ลดความน่าดึงดูดของทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ
นักลงทุนจับตาสถานการณ์ Brexit อย่างใกล้ชิด โดยนายไมเคิล โกฟ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า สหภาพยุโรป (EU) ยังไม่ได้ตอบรับต่อข้อเสนอของรัฐบาลอังกฤษเกี่ยวกับการขยายเส้นตายการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ส่งผลให้เขาต้องเร่งจัดทำแผนรับมือความเป็นไปได้มากขึ้นที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit)
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐและจีนจะบรรลุข้อตกลงในการยุติการทำสงครามการค้า และการเจรจาการค้ามีความคืบหน้าอย่างมาก