ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ ทำสถิติดิ่งลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน หลุดระดับ 1,490 ดอลลาร์ โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์
นอกจากนี้ นักลงทุนหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น หลังคลายความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ณ เวลา 23.37 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 26.10 ดอลลาร์ หรือ 1.73% สู่ระดับ 1,485.00 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 22.06 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.42% สู่ระดับ 109.02 เยน และดีดตัว 0.47% สู่ระดับ 1.1074 เทียบยูโร ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.40% สู่ระดับ 97.90
นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในระหว่างการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ว่า เขาเชื่อว่าสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนในเดือนนี้ และคาดว่าบริษัทสหรัฐจะได้รับใบอนุญาตให้จำหน่ายสินค้าให้กับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีนในเร็วๆนี้
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า การเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเฟสแรกกำลังดำเนินไปด้วยดี และเขาหวังที่จะลงนามข้อตกลงดังกล่าวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในสหรัฐเมื่อการทำข้อตกลงเสร็จสมบูรณ์ โดยอาจมีการลงนามข้อตกลงการค้ากับจีนที่รัฐไอโอวา ซึ่งเป็นรัฐที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการทำสงครามการค้าระยะเวลาเกือบ 16 เดือนระหว่างสหรัฐและจีน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยง หลังผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐดีดตัวแตะระดับ 54.7 ในเดือนต.ค. จากระดับ 52.6 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2559
ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ โดยมีการขยายตัวเป็นเดือนที่ 117 ขณะที่ได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขาย คำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน
ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการของ ISM ประกอบด้วยอุตสาหกรรม 17 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง การก่อสร้าง และเหมืองแร่