สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนส่งสัญญาณคืบหน้า รวมทั้งรายงานที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งในภาคบริการของสหรัฐ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 27.4 ดอลลาร์ หรือ 1.81% ปิดที่ 1,483.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.ปีนี้ และเป็นการร่วงลงในวันเดียวที่หนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.ปีนี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 49.8 เซนต์ หรือ 2.76% ปิดที่ 17.568 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 8.1 ดอลลาร์ หรือ 0.86% ปิดที่ 930.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ดิ่งลง 6.10 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,746.70 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนส่งสัญญาณคืบหน้า โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า การเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเฟสแรกกำลังดำเนินไปด้วยดี และเขาหวังที่จะลงนามข้อตกลงดังกล่าวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในสหรัฐเมื่อการทำข้อตกลงเสร็จสมบูรณ์ โดยอาจมีการลงนามข้อตกลงการค้ากับจีนที่รัฐไอโอวา
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐดีดตัวแตะระดับ 54.7 ในเดือนต.ค. จากระดับ 52.6 ในเดือนก.ย. โดยดัชนีภาคบริการสหรัฐขยายตัวเป็นเดือนที่ 117 เพราะได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขาย คำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.44% แตะที่ระดับ 97.93 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าได้ลดความน่าดึงดูดของทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ