ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมทองแดงของชิลีเปิดเผยว่า เหมืองทองแดงของชิลียังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ และมีกำลังการผลิตคงเดิม แม้จะต้องเผชิญกับการประท้วงใหญ่ในประเทศมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์
เหตุการณ์ประท้วงในชิลียังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง แม้ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเญร่า แห่งชิลี จะประกาศใช้มาตรการปราบปรามการประท้วงก็ตาม
อย่างไรก็ดี แม้เหมืองส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล แต่นักวิเคราะห์ยังคงวิตกกังวลว่า หากสถานการณ์ความไม่สงบยังคงยืดเยื้อ ก็อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตทองแดงของชิลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีการผลิตทองแดงมากที่สุดในโลก หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 28%
นายฮวน คาร์ลอส กัวจาร์โด หัวหน้าที่ปรึกษาบริษัทพลัสไมนิ่ง กล่าวว่า หากสถานการณ์ในชิลีเลวร้ายลง และมีหลายสหภาพแรงงานเข้าร่วมการประท้วงในครั้งนี้มากขึ้น อาจส่งผลให้เกิดการผละงานประท้วง ซึ่งก็จะทำให้กำลังการผลิตของเหมืองของชิลีชะลอตัวลงด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลชิลีประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายเมืองเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยมีการปล้มสะดมร้านค้า และการเผาสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่ง ขณะที่ประชาชนต่างลุกฮือแสดงความไม่พอใจต่อการที่รัฐบาลประกาศปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน และค่าโดยสารในภาคสาธารณะ
ความวุ่นวายดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย และถูกจับกุม 7,000 ราย ขณะที่ภาคธุรกิจประสบความเสียหายราว 1.4 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ เหตุการณ์จลาจลทั่วประเทศยังส่งผลให้ประธานาธิบดีปิเญร่า ประกาศยกเลิกการจัดประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่มีกำหนดจัดขึ้นในเมืองซานติอาโกในวันที่ 16-17 พ.ย.