สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) เนื่องจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง เป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.60 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,463.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 22.1 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 16.913 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 874.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.00 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,675.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นสู่แดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์การค้าที่ไม่แน่นอนระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน หากสหรัฐไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดยรายงานระบุว่า สภาคองเกรสสหรัฐกำลังเริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง ซึ่งการไต่สวนจะกระทำอย่างเปิดเผยและเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนถ่ายทอดสดการไต่สวนดังกล่าว
ทั้งนี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ประกาศเริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนต.ค. หลังจากมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และบุตรชายของเขา ซึ่งมีการทำธุรกิจในยูเครน โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ