สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงเมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัดแรงบวกของตลาดในระหว่างวัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 1,474.30 dollars ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.8 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 17.118 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 17.30 ดอลลาร์ หรือ 1.93% ปิดที่ 912.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 33 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 1,737.40 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่างโฮม ดีโปท์ และโคห์ลส์ คอร์ป รวมทั้งความไม่แน่นอนด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยรายงานล่าสุดระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก หากสหรัฐและจีนยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า
อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.02% แตะที่เหนือระดับ 97.82 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าได้ลดความน่าดึงดูดของทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ