ราคาทองฟิวเจอร์ย่อตัวลงในวันนี้ โดยถูกกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมทั้งการแข็งค่าของดอลลาร์
ณ เวลา 00.16 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลบ 0.3 ดอลลาร์ หรือ 0.02% สู่ระดับ 1,463.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.9 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน หลังจากแตะระดับ 50.9 ในเดือนต.ค.
ดัชนี PMI ได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน ขณะที่การจ้างงานเพิ่มขึ้น หลังจากลดลงติดต่อกัน 2 เดือน แต่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจปรับตัวลง
ดัชนี PMI อยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว ทั้งภาคการผลิต และบริการ
ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 52.2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน จากระดับ 51.3 ในเดือนต.ค.
สำหรับดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 51.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 50.6 ในเดือนต.ค.
นอกจากนี้ ราคาทองยังถูกกดดันจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวในวันนี้ว่า สหรัฐใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนในไม่ช้า
"เรามีโอกาสที่ดีในการทำข้อตกลง" ปธน.ทรัมป์กล่าว
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์กล่าวอีกว่า เขาไม่ได้รู้สึกกระวนกระวายที่จะต้องรีบทำข้อตกลง เนื่องจากสหรัฐกำลังได้ประโยชน์จากการเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน
ทางด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนจะร่วมมือกับสหรัฐในการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกบนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน และความเท่าเทียมกัน และจีนไม่วิตก หากต้องต่อสู้กับสหรัฐ
หนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่การค้าของสหรัฐและจีนกำลังใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก
แหล่งข่าวระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงการค้าก่อนวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งเป็นกำหนดวันที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษี 15% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 1.56 แสนล้านดอลลาร์ แต่ถึงแม้ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าก่อนวันดังกล่าว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็มีแนวโน้มที่จะเลื่อนการจัดเก็บภาษีดังกล่าวออกไป เนื่องจากไม่ต้องการให้ผู้บริโภคของสหรัฐได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่จะพุ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟน หากมีการเรียกเก็บภาษีจากจีน ขณะที่ใกล้กับช่วงเทศกาลช็อปปิ้งของสหรัฐ