สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นทำนิวไฮ ขานรับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ส่งสัญญาณคืบหน้า นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.70 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ 1,456.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 11.4 เซนต์ หรือ 0.67% ปิดที่ 16.886 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 7.80 ดอลลาร์ หรือ 0.87% ปิดที่ 900.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 28.00 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 1,771.40 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq พุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ ขานรับสัญญาณบวกของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยโกลบอล ไทม์ส ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษในสังกัดพรรคคอมมิวนิสต์จีน เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ @globaltimesnews ว่า ขณะนี้จีนและสหรัฐใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกแล้ว และจีนยังคงมีความยินดีที่จะเจรจาข้อตกลงการค้าต่อไปในอีกหลายเฟสตามมา
นอกจากนี้ สัญญาทองคำได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.09% แตะที่ 98.36 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าได้ลดความน่าดึงดูดของทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ