สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา อย่างไรก็ดี การที่ตลาดหุ้นสหรัฐทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนจำนวนหนึ่งยังคงเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.23% ปิดที่ 1,460.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 15.9 เซนต์ หรือ 0.94% ปิดที่ 17.045 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 11.30 ดอลลาร์ หรือ 1.25% ปิดที่ 911.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 10.90 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,782.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.07% แตะที่ 98.25 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าได้เพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงสำหรับผู้ที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น มาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 0.7% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 733,000 ยูนิต ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐลดลงสู่ระดับ 125.5 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4
อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนจำนวนหนึ่งยังคงเดินหน้าเทขายสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นทำนิวไฮอีกครั้ง ภายหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า สหรัฐกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำข้อตกลงการค้ากับจีน