สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (17 ธ.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนยังคงลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 1,480.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 4.1 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 17.072 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.5 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 929.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 45.00 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 1,918.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากคำสั่งขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐยังคงเดินหน้าทำนิวไฮ ขานรับการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐและจีน
รายงานระบุว่า ราคาทองพุ่งขึ้นราว 15% ในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.2% แตะที่ 97.20 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าได้ลดความน่าดึงดูดของทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ