ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนหันเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง โดยคลายความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังพบว่าอัตราผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ชะลอตัวลง
นอกจากนี้ ราคาทองยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งได้ลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 22.56 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 12.50 ดอลลาร์ หรือ 0.80% สู่ระดับ 1,567.0 ดอลลาร์/ออนซ์
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงในวันนี้ว่า ผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก 108 ราย รวมเป็น 1,016 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2,478 ราย รวมเป็น 42,638 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.
นายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า ไม่มีการรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ที่เป็นชาวต่างชาติในจีน
รัฐบาลจีนแถลงเมื่อวานนี้ว่า ชาวต่างชาติ 2 รายในจีน ซึ่งเป็นชาวอเมริกันและชาวญี่ปุ่นได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา ขณะที่จีนมีผู้ป่วยต่างชาติจำนวน 27 รายที่ติดเชื้อไวรัสดังกล่าว
นายโซ่ง หนานชาน ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของจีน กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนจะแตะระดับสูงสุดในเดือนนี้ ก่อนที่จะทรงตัว และเบาบางลงในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
นายโซ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลกในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือซาร์ส (SARS) ในปี 2546 กล่าวว่า สถานการณ์ในจีนในขณะนี้เริ่มดีขึ้นแล้ว โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้เริ่มลดลง
นายโซ่งคาดว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนจะแตะระดับสูงสุดในช่วงกลางเดือนนี้ หรือปลายเดือนนี้ ก่อนที่จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดน้อยลง
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ และต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ, อัตราเงินเฟ้อ, ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้ รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
นายพาวเวลระบุว่า "ความเสี่ยงในช่วงขาลงต่อเศรษฐกิจสหรัฐได้เบาบางลงในช่วงปลายปีที่แล้ว ขณะที่ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้คลี่คลายลง และการขยายตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศเริ่มส่งสัญญาณการมีเสถียรภาพ ส่วนสภาวะในตลาดการเงินได้ผ่อนคลายลง ขณะที่แนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีหน้าได้ลดน้อยลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา"
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลเตือนว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนได้กลายเป็นปัจจัยเสี่ยงใหม่ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
แถลงการณ์ระบุว่า เฟดกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และผลกระทบที่มีต่อจีน และการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลเชื่อมั่นว่านโยบายของเฟดยังคงมีความเหมาะสม หลังจากที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในปีที่แล้ว แม้มีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัส
"ตราบใดที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดได้รับมีความสอดคล้องกับมุมมองของเฟด จุดยืนด้านนโยบายการเงินในปัจจุบันก็จะยังคงมีความเหมาะสม" แถลงการณ์ระบุ
นอกจากนี้ นายพาวเวลยังระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวปานกลาง และปัจจัยพื้นฐานที่ช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนก็ยังคงมีความแข็งแกร่ง ขณะที่ตลาดแรงงานมีการจ้างงานจำนวนมาก