ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี ขณะที่นักลงทุนพากันซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจโลก
ณ เวลา 00.42 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ดีดตัวขึ้น 12.10 ดอลลาร์ หรือ 0.75% สู่ระดับ 1,623.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.2556
ราคาทองดีดตัวขึ้นเป็นวันที่ 6 และปรับตัวขึ้น 8 ใน 9 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ซิตี้กรุ๊ปประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาทองในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า สู่ระดับ 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์
นอกจากนี้ ซิตี้กรุ๊ปยังคาดว่าราคาทองจะพุ่งสูงกว่าระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วง 12-24 เดือนข้างหน้า
ซิตี้กรุ๊ประบุว่า ปัจจัยหนุนการปรับตัวขึ้นของราคาทองคือความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.
ส่วนยูบีเอสระบุว่า ในระยะสั้น ราคาทองจะพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาทองจะดีดตัวทะลุแนว 1,650 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
"ขณะนี้ทองกำลังแสดงคุณภาพในการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และเราขอแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อทอง" ยูบีเอสระบุ
อย่างไรก็ดี ยูบีเอสเตือนว่าช่วงขาขึ้นของราคาทองอาจถูกจำกัด หากประเทศต่างๆสามารถสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในไตรมาสแรก
ทางด้านบีสโปค อินเวสเมนท์ กรุ๊ประบุว่า การที่ราคาทองสามารถทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,600 ดอลลาร์ถือเป็นการพุ่งทะลุแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ทองดีดตัวขึ้นต่อไป
นอกจากนี้ บีสโปคเปิดเผยว่า การปรับตัวขึ้นของราคาทองในรอบนี้มาพร้อมกับการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าการอ่อนค่าของดอลลาร์ไม่ใช่สาเหตุผลักดันราคาทองในครั้งนี้