สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด ด้วยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% เมื่อวานนี้ เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 49.6 ดอลลาร์ หรือ 3.11% ปิดที่ 1,644.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 44.9 เซนต์ หรือ 2.68% ปิดที่ 17.188 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 9.9 ดอลลาร์ หรือ 1.15% ปิดที่ 869.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 40.20 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 2,387.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% จากระดับ 1.50-1.75% สู่ระดับ 1.00-1.25% เมื่อวานนี้ เพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินเมื่อวานนี้ มีขึ้นก่อนการประชุมตามปกติของเฟดที่มีกำหนดในวันที่ 17-18 มี.ค. และยังถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนอกรอบการประชุมครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2551 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตการเงิน
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า เฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน หลังจากที่เฟดมองว่าไวรัสโควิด-19 กำลังส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.22% สู่ระดับ 97.15 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจะช่วยหนุนราคาทองปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นสามารถซื้อทองได้ในราคาที่ถูกลง