สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง และเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าได้ช่วยให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดเพิ่มขึ้นด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 4.4 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ 1,672.4 ดอลลาร์/ออนซ์ และในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำ พุ่งขึ้น 6.79% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบ 9 ปีนับตั้งแต่ปี 2554
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 13 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 17.263 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 30.7 ดอลลาร์ หรือ 3.55% ปิดที่ 896.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 30.20 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 2,439.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองได้แรงหนุน เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ลุกลามไปทั่วโลก
มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์เปิดเผยข้อมูลระบุว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนมากกว่า 100,000 รายแล้ว โดยจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มมากขึ้นนอกประเทศจีน
นอกจากนี้ ราคาทองยังได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงด้วย โดยดัชนีดอลลาร์ที่วัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงิน ลดลง 0.81% สู่ระดับ 96.04
ทั้งนี้ ราคาทองมักปรับตัวสวนทางกับดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง ราคาทองจะปรับตัวขึ้น เนื่องจากราคาทองสกุลดอลลาร์จะมีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ