สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐทำสถิติดิ่งลงหนักสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 และราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,675.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 20.9 เซนต์ หรือ 1.21% ปิดที่ 17.054 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 33.6 ดอลลาร์ หรือ 3.75% ปิดที่ 862.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ดิ่งลง 33.50 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 2,405.70 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐทรุดตัวลงอย่างหนัก โดยเมื่อวานนี้ตลาดต้องหยุดพักการซื้อขายเป็นเวลา 15 นาทีหลังจากเปิดการซื้อขายได้เพียง 5 นาที หลังจากดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 ร่วงลงอย่างรุนแรงจนส่งผลให้มีการใช้ระบบ circuit breaker เพื่อระงับการซื้อขายชั่วคราว
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 และราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดยข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ระบุว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 113,575 ราย และมีผู้เสียชีวิต 3,995 ราย
ราคาน้ำมันดิบ WTI ทรุดตัวลงกว่า 24% เมื่อคืนนี้ หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรที่นำโดยรัสเซีย ประสบความล้มเหลวในการทำข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมที่กรุงเวียนนาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ซาอุดีอาระเบียเปิดฉากทำสงครามราคาน้ำมัน ด้วยการประกาศลดราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ (OSP)