สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) เนื่องจากการทรุดตัวของตลาดหุ้นส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลและตัดสินใจเทขายทองคำเพื่อถือเงินสดเอาไว้ โดยตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศระงับการเดินทางจากประเทศในยุโรปเข้าสู่สหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 52 ดอลลาร์ หรือ 3.17% ปิดที่ 1590.3 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 2563
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 77.1 เซนต์ หรือ 4.60% ปิดที่ 16.005 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 86.40 ดอลลาร์ หรือ 9.95% ปิดที่ 781.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 314.40 ดอลลาร์ หรือ 14.1% ปิดที่ 1,914.90 ดอลลาร์/ออนซ์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐได้สร้างความตื่นตระหนกและทำให้นักลงทุนเทขายทองคำเพื่อถือเงินสดเอาไว้ โดยตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะระงับการเดินทางจากประเทศในยุโรปทั้งหมด ยกเว้นสหราชอาณาจักร ในช่วง 30 วันข้างหน้า โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้
ถ้อยแถลงของปธน.ทรัมป์ได้ฉุดหุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงทั้งในตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นยุโรป ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า มาตรการดังกล่าวจะยิ่งฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลงอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการบิน หลังจากอุตสาหกรรมดังกล่าวได้รับผลกระทบอย่างหนักอยู่แล้วจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดและมีผลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดทองคำเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ดิ่งลง 0.6% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2558
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 218,000 ราย