สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการที่นักลงทุนแห่เทขายทองคำเพื่อถือเงินสด หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐทรุดตัวลงอย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 47.9 ดอลลาร์ หรือ 3.14% ปิดที่ 1477.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 72.3 เซนต์ หรือ 5.79% ปิดที่ 11.772 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 60.3 ดอลลาร์ หรือ 9.06% ปิดที่ 605 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ดิ่งลง 89.80 ดอลลาร์ หรือ 6% ปิดที่ 1,419.80 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนแห่เทขายทองคำอย่างตื่นตระหนัก เพื่อถือเงินสดเอาไว้ในมือ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐทรุดตัวลงอย่างหนักจนทำให้ต้องประกาศใช้ระบบ circuit breaker เพื่อพักการซื้อขายเป็นเวลา 15 นาทีเมื่อคืนนี้ ซึ่งถือเป็นการใช้ครั้งที่ 4 ในรอบ 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงเนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง โดยข้อมูลล่าสุดจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ระบุว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 201,436 ราย และมีผู้เสียชีวิต 8,007 ราย ส่วนในสหรัฐนั้น มีผู้ติดเชื้อ 6,496 ราย และเสียชีวิต 114 ราย
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 1.87% สู่ระดับ 101.44 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์ที่แข็งค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น