สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 83 ดอลลาร์ หรือ 5.59% ปิดที่ 1567.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 87.6 เซนต์ หรือ 7.07% ปิดที่ 13.261 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 627.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 16.70 หรือ 1.1% ปิดที่ 1,556.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำทะยานขึ้นหลังจากเฟดประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เมื่อวานนี้ เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมาตรการดังกล่าว รวมถึง การซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงินไม่จำกัด เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของตลาด และความมีประสิทธิภาพในการใช้นโยบายการเงิน ท่ามกลางสภาวะทางการเงินและเศรษฐกิจในปัจจุบัน
เฟดยังระบุว่าจะเข้าซื้อหุ้นกู้ของภาคเอกชนเป็นครั้งแรก โดยจะซื้อหลักทรัพย์ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในขั้นน่าลงทุน ทั้งในและนอกตลาด รวมทั้งจะเข้าซื้อกองทุน ETFs
นอกจากนี้ เฟดจะเพิ่มวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์สำหรับโครงการปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ และโครงการสินเชื่อที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันที่มีการใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตทางการเงิน
ขณะเดียวกัน เฟดระบุว่าจะทำ QE โดยรวมถึงการเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่มีตราสารจำนองเชิงพาณิชย์ค้ำประกัน ซึ่งจะบ่งชี้ว่าเฟดได้ขยายการทำ QE ให้รวมถึงตราสารเชิงพาณิชย์ในภาคอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-19 และสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.51% สู่ระดับ 102.3 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจะช่วยหนุนราคาทองปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นสามารถซื้อทองได้ในราคาที่ถูกลง