สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 90 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (24 มี.ค.) ทำสถิติพุ่งขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งสุดในรอบ 11 ปี โดยตลาดทองคำยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยไม่จำกัดวงเงินและเวลา เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 93.2 ดอลลาร์ หรือ 5.95% ปิดที่ 1,660.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 99.6 เซนต์ หรือ 7.51% ปิดที่ 14.257 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 74.2 ดอลลาร์ หรือ 11.82% ปิดที่ 701.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 230 ดอลลาร์ หรือ 14.8% ปิดที่ 1,786.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำทำสถิติพุ่งขึ้นเป็นเปอร์เซนต์ในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 11 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2552 เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของเฟด โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงินไม่จำกัด เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของตลาด และความมีประสิทธิภาพในการใช้นโยบายการเงิน ท่ามกลางสภาวะทางการเงินและเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพิ่มการถือครองทอง 1.8% สู่ระดับ 923.99 ตัน
นอกจากนี้ ราคาทองยังได้แรงหนุนจากการปิดโรงงานผลิตทอง 3 แห่งในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อปริมาณทองคำในตลาด