สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นหุ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 27.4 ดอลลาร์ หรือ 1.65% ปิดที่ 1,633.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 61.6 เซนต์ หรือ 4.32% ปิดที่ 14.873 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 43.8 ดอลลาร์ หรือ 6.24% ปิดที่ 745.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ทะยานขึ้น 460.70 ดอลลาร์ หรือ 25.8% ปิดที่ 2,247.60 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำปิดตลาดพุ่งขึ้น 83 ดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ และทะยานขึ้น 93.2 ดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากข่าวธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงินไม่จำกัด
ขณะเดียวกัน นักลงทุนได้เทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า เช่นหุ้น หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับข่าวทำเนียบขาวและวุฒิสภาสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค. โดยเพิ่มขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนก.พ. ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของคำสั่งซื้อรถยนต์และรถบรรทุก