สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 มี.ค.) อันเป็นผลจากแรงขายทำกำไร แม้ดอลลาร์อ่อนค่าลง และมีความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบด้านการผลิตทองที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ตาม
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 26.2 ดอลลาร์ หรือ 1.59% ปิดที่ 1,625 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำ พุ่งขึ้น 9.5% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2551
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 14.2 เซนต์ หรือ 0.97% ปิดที่ 14.534 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 3.2 ดอลลาร์ หรือ 0.43% ปิดที่ 740.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 29.30 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 2,196.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ สัญญาทองคำนิวยอร์กปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากราคาทองปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความต้องการซื้อทองในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐไม่ได้ช่วยหนุนความต้องการซื้อทอง โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับ 89.1 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2559 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 90.0 จากระดับ 101 ในเดือนก.พ. โดยดัชนีความเชื่อมั่นทำสถิติทรุดตัวลงในเดือนมี.ค.มากที่สุดเป็นอันดับ 4 ในรอบเกือบ 50 ปี ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ราคาทองยังไม่ได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า เหมืองทองและโรงงานแปรรูปทองหลายแห่งได้รับผลกระทบด้านการผลิตจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ปริมาณทองลดลง และมีแนวโน้มที่จะช่วยหนุนราคาทอง
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงได้ช่วยลดช่วงติดลบของราคาทอง โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.63% สู่ระดับ 98.73 เมื่อคืนนี้
การร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ และดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงได้กระตุ้นให้นักลงทุนบางส่วนเข้าซื้อทองในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย