สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ลดความน่าดึงดูดของราคาทองคำ นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นเกือบ 700 จุดเมื่อคืนนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 10.9 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ 1643.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 40.2 เซนต์ หรือ 2.77% ปิดที่ 14.132 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 17.8 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 723.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 2,197.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันหลังจากดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.91% สู่ระดับ 99.26 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ นักลงทุนได้เทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นเกือบ 700 จุดเมื่อคืนนี้ จากคำสั่งซื้อกลุ่มธุรกิจสุขภาพ รวมทั้งข่าวรัฐบาลสหรัฐออกมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขยายช่วงเวลาในการแนะนำให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคมออกไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย. โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ขณะเดียวกันปธน.ทรัมป์ยังยืนยันความตั้งใจที่จะผลักดันให้มีการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้งภายในเทศกาลอีสเตอร์ ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ 12 เม.ย.นี้ พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐจะฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในวันที่ 1 มิ.ย.