สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทจดทะเบียน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 8.6 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,761.4 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 2555
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 51.6 เซนต์ หรือ 3.21% ปิดที่ 15.537 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 749.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 60.70 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 2,170.70 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความกังวลที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐและรายได้ของบริษัทจดทะเบียน โดยรายงานระบุว่า ขณะนี้สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต
นอกจากนี้ นักลงทุนมองว่าการที่รัฐบาลทั่วโลกออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำเมื่อรับมือกับปัญหาโควิด-19 นั้น อาจทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ โดยมุมมองดังกล่าวนับเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากหลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.13% สู่ระดับ 99.39 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจะช่วยหนุนราคาทองปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นสามารถซื้อทองได้ในราคาที่ถูกลง
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกเดือนมี.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)