ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ณ เวลา 00.24 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 4.90 ดอลลาร์ หรือ 0.28% สู่ระดับ 1,723.30 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนคาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยล่าสุดรัฐบาลอังกฤษจะอนุญาตให้มีการเปิดห้างสรรพสินค้าและธุรกิจบางส่วนในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ตามมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์เฟสที่สอง ขณะที่หนังสือพิมพ์ Bild ของเยอรมนีรายงานว่า รัฐบาลเยอรมนีมีแผนที่จะผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมให้เร็วขึ้น 1 สัปดาห์ จากเดิมที่จะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 5 ก.ค. มาเป็นวันที่ 29 มิ.ย. และตั้งเป้าจะยกเลิกคำเตือนการเดินทางไปยัง 31 ประเทศในยุโรปในช่วงกลางเดือนมิ.ย.นี้
ซิตี้กรุ๊ปออกรายงานในวันนี้ ระบุว่า ราคาทองมีความเสี่ยงในระยะสั้นมากขึ้นที่จะร่วงลงสู่ช่วงล่างถึงช่วงกลางของระดับ 1,600 ดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ทางบริษัทมีความเชื่อมั่นต่อทองในระยะกลาง และคาดการณ์ว่าราคาทองจะพุ่งแตะ 2,000 ดอลลาร์ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
นักลงทุนจับตาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งอาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ได้รายงานต่อสภาคองเกรสสหรัฐในวันนี้ว่า ฮ่องกงไม่ได้มีความเป็นอิสระในการปกครองตนเองจากจีนอีกต่อไป
"ขณะที่สหรัฐเคยหวังว่าฮ่องกง ซึ่งมีความเป็นอิสระและมั่งคั่ง จะช่วยเป็นแบบอย่างสำหรับจีน แต่บัดนี้กลับปรากฎชัดว่าจีนกำลังสร้างฮ่องกงให้เป็นเหมือนตนเอง" รายงานระบุ
การดำเนินการดังกล่าวของนายปอมเปโออาจกระทบต่อสถานะพิเศษของฮ่องกง ซึ่งได้รับการเอื้อประโยชน์ทางการค้ากับสหรัฐ
ที่ผ่านมา ฮ่องกงได้รับการยกเว้นภาษีต่อสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐยังคงเก็บภาษีต่อสินค้าที่จีนส่งออกไปยังสหรัฐจากการที่ทั้งสองฝ่ายทำสงครามการค้าระหว่างกัน