สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป (ECB) นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นทั่วโลกอ่อนแรงลงยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 22.6 ดอลลาร์ หรือ 1.33% ปิดที่ 1727.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 10.3 เซนต์ หรือ 0.57% ปิดที่ 18.061 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 865 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 35.40 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 1,922.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำดีดตัวขึ้น หลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.62% สู่ระดับ 96.6788 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลง และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ขณะเดียวกัน นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกอ่อนแรงลง โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดหุ้นพุ่งแรงในช่วงก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจาก ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ และ ECB ได้ประกาศเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการฉุกเฉินอีก 6 แสนล้านยูโร เพื่อเยียวยาเศรษฐกิจในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งวงเงินดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5 แสนล้านยูโร