สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงเนื่องจากแรงขายทำกำไร นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 16.8 ดอลลาร์ หรือ 0.99% ปิดที่ 1,721.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 9.9 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 17.794 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 60 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 860.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 69.80 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 1,967.10 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงในวันอังคาร อันเนื่องมาจากคำสั่งขายทำกำไร โดยดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงกว่า 300 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นต่างๆในยุโรปร่วงลงเช่นกัน
สัญญาทองคำยังได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.31% สู่ระดับ 96.3320 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลง และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 965,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 5.0 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2557
การร่วงลงของตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่จะฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19