ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งเหนือ 1,750 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ Thursday June 11, 2020 21:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 30 ดอลลาร์ หรือเกือบ 2% เหนือระดับ 1,750 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

ณ เวลา 21.24 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ดีดตัวขึ้น 31.30 ดอลลาร์ หรือ 1.81% สู่ระดับ 1,752.20 ดอลลาร์/ออนซ์

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 6.5% ในปีนี้ ขณะที่อัตราการว่างงานจะพุ่งแตะระดับ 9.3%

นักลงทุนวิตกต่อการที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้กลับเพิ่มขึ้นในบางรัฐ หลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

รัฐเท็กซัสเปิดเผยจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 สูงเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลแตะระดับ 2,153 รายเมื่อวานนี้ หลังจากอยู่ที่ระดับ 2,056 และ 1,935 รายเมื่อวันอังคารและวันจันทร์ตามลำดับ ขณะที่เคาน์ตี 9 แห่งของรัฐแคลิฟอร์เนียต่างก็รายงานการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19

ขณะนี้ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2,066,611 ราย และมีผู้เสียชีวิต 115,140 ราย โดยสหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต

รัฐนิวยอร์กถือเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยมีผู้ติดเชื้อสูงสุดในประเทศ จำนวน 401,333 ราย และเป็นจำนวนที่มากกว่าทุกประเทศในโลก นอกจากนี้ รัฐนิวยอร์กยังมีผู้เสียชีวิตสูงสุดในสหรัฐ จำนวน 30,680 ราย

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.54 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.6 ล้านราย

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่มีการรายงานในวันนี้ได้ลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 10 และต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.9 ล้านรายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 มี.ค.

สำหรับจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ค. ลดลงสู่ระดับ 20.9 ล้านราย หลังแตะระดับ 21.5 ล้านรายในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 พ.ค. ขณะที่แตะระดับสูงสุดที่ 24.9 ล้านรายในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 พ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ