สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขายทองซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นกว่า 400 จุด ขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น กดดันราคาทองลงด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2.5 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 1,737.3 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ปรับตัวขึ้น 3.2% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 40.7 เซนต์ หรือ 2.28% ปิดที่ 17.482 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 5 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 819 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 28.40 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 1,938.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ สัญญาทองคำถูกกดดันจากแรงขายในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากที่ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวขึ้นในวันศุกร์ และราคาทองยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ รวมถึงการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐด้วย
นอกจากนี้ ราคาทองยังถูกถ่วงลงหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้นด้วย โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 78.9 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 72.3 ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 75.0
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการเปิดทำการเศรษฐกิจครั้งใหม่ หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19