สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำขยับลงไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนส่วนหนึ่งยังคงเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่สูงเกินคาด รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ 1,731.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 26.7 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 17.508 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 26 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 812.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 16.90 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,908.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.27% สู่ระดับ 97.4271 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.5 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.3 ล้านราย โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านรายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 13 แม้ว่ารัฐต่างๆได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และได้เปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่
นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นในสัปดาห์หน้า เนื่องจากนักลงทุนมีแนวโน้มหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อันเป็นผลมาจากความขัดแย้งด้านการเมืองระหว่างประเทศ รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19