สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) โดยทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2554 เนื่องนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังช่วยดึงดูดแรงซื้อทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 19.3 ดอลลาร์ หรือ 1.08% ปิดที่ 1,800.5 ดอลลาร์/ออนซ์ และตลอดทั้งไตรมาส 2 ปีนี้ สัญญาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.8%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 57.3 เซนต์ หรือ 3.17% ปิดที่ 18.637 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 23 ดอลลาร์ หรือ 2.78% ปิดที่ 851.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 33.8 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 1,966.90 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยข้อมูลล่าสุดของ Worldometer ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 10,432,846 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 508,803 ราย ขณะที่สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต
นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ และเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมไวรัสโควิด-19 ของทำเนียบขาว เปิดเผยว่า สหรัฐไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่อาจพุ่งขึ้นมากกว่า 100,000 รายในแต่ละวัน หากไม่มีการดำเนินการใดๆ
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.146% สู่ระดับ 97.3930 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น