สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งทำนิวไฮในรอบเกือบ 9 ปีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังลดความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 16.8 ดอลลาร์ หรือ 0.92% ปิดที่ 1,803.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 19.9 เซนต์ หรือ 1.04% ปิดที่ 18.962 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 37.1 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 846.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 24.90 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,963.20 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 9 ปีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความหวังที่ว่ารัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.28% สู่ระดับ 96.7039 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
นักวิเคราะห์ระบุว่า หากระดับ 1,800 ดอลลาร์เป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง ก็จะทำให้ราคาทองมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นทดสอบระดับ 1,820-1,828 ดอลลาร์ แต่ถ้าราคาทองร่วงหลุด 1,800 ดอลลาร์ ก็จะฉุดให้ราคาทองดิ่งลงแตะ 1,765 ดอลลาร์
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยข้อมูลล่าสุดของ Worldometer ระบุว่า สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก จำนวน 3,159,514 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก จำนวน 134,873 ราย