สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกทรุดตัวลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
WGC ระบุในรายงานว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ความต้องการทองคำทั่วโลกอยู่ที่ 2,076 ตัน ลดลง 6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ความต้องการทองคำทั่วโลกในไตรมาส 2 ปีนี้ ดิ่งลง 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว แตะที่ 1,015.7 ตัน
WGC ระบุว่า ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อตลาดทองคำในไตรมาส 2 นั้น มาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการทองคำลดลง
อย่างไรก็ดี WGC ระบุว่า ในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.ปีนี้ มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 734 ตัน เนื่องจากรัฐบาลและธนาคารกลางของประเทศต่างๆ พากันปรับลดอัตราดอกเบี้ยและอัดฉีดสภาพคล่องจำนวนมากเพื่อบรรเทาผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ยอดการซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกลดลง 39% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปีที่แล้ว แตะที่ 233 ตัน ส่วนความต้องการทองคำที่ใช้ในด้านเทคโนโลยีร่วงลง 13% เหลือเพียง 140 ตัน
ความต้องการทองคำในภาคอุตสาหกรรมอัญมณีดิ่งลง 46% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แตะที่ 572 ตัน และความต้องการลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญทองคำลดลง 17% สู่ระดับ 396.7 ตัน ในช่วงเวลาดังกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายหวัง หลี่ซิน ผู้อำนวยการทั่วไปของสภาทองคำโลกประจำประเทศจีนกล่าวว่า แม้ตลาดทองคำทั่วโลกจะอยู่ในทิศทางที่อ่อนแรงลง แต่ตลาดทองคำของจีนฟื้นตัวในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ โดยมีความต้องการทั้งเครื่องประดับ ทองคำแท่ง และเหรียญทองคำเพิ่มมากขึ้นจากไตรมาสแรก