ราคาทองฟิวเจอร์ทรุดหนักกว่า 40 ดอลลาร์ หลุดแนว 2,000 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังมีข่าวว่า รัสเซียได้จดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เป็นประเทศแรกในโลก
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์เคยเตือนว่า ความสำเร็จของการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะฉุดราคาทอง หลังจากที่พุ่งขึ้นในระยะนี้
ณ เวลา 17.45 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 43.10 ดอลลาร์ หรือ 2.11% สู่ระดับ 1,996.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศว่า รัสเซียเป็นประเทศแรกของโลกที่มีการจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
"เท่าที่ผมทราบ รัสเซียได้จดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เมื่อเช้านี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลก" ปธน.ปูตินกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีรัสเซียวันนี้
"วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพมาก โดยสามารถสร้างภูมิคุ้มกันอย่างมีเสถียรภาพ และวัคซีนนี้ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว" ปธน.ปูตินกล่าว
ทั้งนี้ วัคซีนดังกล่าวได้เสร็จสิ้นการทดลองทางคลินิกในเวลาไม่ถึง 2 เดือน และจะมีการเริ่มทดลองในเฟส 3 ในไม่ช้า
นอกจากนี้ ปธน.ปูตินยังเปิดเผยว่า บุตรสาวคนหนึ่งของเขาได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าวแล้ว โดยได้เข้าเป็นอาสาสมัครคนหนึ่งในโครงการทดลองวัคซีน
นายยุง-ยู หม่า หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านการลงทุนของบริษัทบีเอ็มโอ เวลธ์ แมเนจเมนท์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีหลายปัจจัยที่ขับเคลื่อนราคาทองให้ดีดตัวขึ้น แต่ก็มี 2 เหตุการณ์สำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคาทอง
"2 เหตุการณ์สำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงทิศทางราคาทอง ได้แก่ การพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 และการเลือกตั้งในสหรัฐ" นายหม่ากล่าว
นายหม่าระบุว่า วัคซีนต้านโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะสกัดปัจจัยบวกที่กำลังหนุนราคาทอง
ทางด้านเธิร์ด บริดจ์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นสำนักวิจัย ระบุว่า ราคาทองอาจดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 1,600 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย. ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นต่อไปในปีหน้า