ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่งลงกว่า 1% หลุดระดับ 1,950 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ณ เวลา 22.59 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 22.80 ดอลลาร์ หรือ 1.15% สู่ระดับ 1,947.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองพุ่งแตะ 2,072.50 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่ดีดตัวขึ้นติดต่อกัน 9 สัปดาห์ แต่ในสัปดาห์นี้ราคาทองดิ่งลง 4.2% ทำสถิติร่วงลงมากที่สุดเมื่อเทียบรายสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนมี.ค.
ราคาทองถูกกดดันจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 จากรัสเซีย รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์
นักลงทุนยังคงจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในวันที่ 15 ส.ค.เพื่อประเมินความคืบหน้าในการปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าในเฟสแรก
การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มยืดเยื้อออกไปอีกหลายสัปดาห์ เนื่องจากวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐไม่มีกำหนดที่จะกลับมาประชุมกันอีกในเดือนนี้ โดยวุฒิสภาจะปิดสมัยประชุมจนถึงวันแรงงานสหรัฐในวันที่ 7 ก.ย. ขณะที่สมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะให้ความสนใจต่อการประชุมใหญ่ของแต่ละพรรคที่จะมีขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า
ทั้งนี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายชัค ชูเมอร์ แกนนำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา ไม่ได้พบกับนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายมาร์ก มีโดว์ส หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว นับตั้งแต่ที่การเจรจาของทั้ง 2 ฝ่ายประสบความล้มเหลวเมื่อวันศุกร์ และทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่มีกำหนดการเจรจารอบใหม่
นางเพโลซีได้สนทนาทางโทรศัพท์ครั้งล่าสุดกับนายมนูชินเมื่อวันพุธ ซึ่งนายมนูชินยืนกรานว่าทำเนียบขาวจะไม่เพิ่มวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 1 ล้านล้านดอลลาร์ เป็น 2 ล้านล้านดอลลาร์ตามที่พรรคเดโมแครตเสนอ