สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและคงวงเงินซื้อพันธบัตรในการประชุมเมื่อวานนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.4 ดอลลาร์ หรือ 0.48% ปิดที่ 1,964.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 20.8 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 27.291 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 16.1 ดอลลาร์ หรือ 1.74% ปิดที่ 941 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.70 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 2,330.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับหลายสกุลเงินซึ่งรวมถึงยูโร ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
ECB ระบุว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบัน หรือต่ำกว่าระดับดังกล่าว จนกว่าอัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายของ ECB ซึ่งระบุให้ "อยู่ใกล้ แต่ไม่เกิน 2%"
นอกจากนี้ ECB มีมติคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ที่ระดับ 1.35 ล้านล้านยูโร โดยจะซื้อพันธบัตรตามโครงการดังกล่าวจนถึงเดือนมิ.ย.2564 หรือจนกระทั่ง ECB พิจารณาว่าวิกฤตการณ์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ผ่านพ้นไปแล้ว