สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายสัญญาทองคำออกมาเพื่อทำกำไร หลังจากปรับตัวขึ้นในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา และยังถูกกดดันจากการที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 16.4 ดอลลาร์ หรือ 0.83% ปิดที่ 1,947.9ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ปรับตัวขึ้น 0.7% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 43.4 เซนต์ หรือ 1.59% ปิดที่ 26.857 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.4 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 939.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 0.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,330.80 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนขายสัญญาทองคำออกมาเพื่อทำกำไร หลังจากปรับตัวขึ้นหลายวัน โดยทิศทางราคาทองอยู่ในช่วงขาขึ้นเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และผลกระทบที่เกิดกับภาวะเศรษฐกิจ
สัญญาทองคำยังถูกกดดันจากการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย.และก.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนส.ค. หลังจากดีดตัวขึ้น 1.0% ในเดือนก.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี CPI อาจเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และอาจเพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบรายปี
หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 1.7% ในเดือนส.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนก.ค.
อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์ตลาดเชื่อว่า แนวโน้มโดยรวมของราคาทองยังคงสดใส เนื่องจากนายแอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐกล่าวในวันศุกร์ว่า เขาเชื่อว่าชีวิตของประชาชนสหรัฐจะยังไม่กลับคืนสู่ภาวะปกติจนกว่าจะถึงสิ้นปี 2564