สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ในสหรัฐ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดราคาทองคำดิ่งลงเมื่อคืนนี้ด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 51.5 ดอลลาร์ หรือ 2.62% ปิดที่ 1,910.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.742 ดอลลาร์ หรือ 10.11% ปิดที่ 24.387 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 62.4 ดอลลาร์ หรือ 6.65% ปิดที่ 876.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ดิ่งลง 99.10 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 2,281.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.79% แตะที่ระดับ 93.6581 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ในสหรัฐ เนื่องจากสภาคองเกรสและทำเนียบขาวยังคงมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น ขณะเดียวกันการเสียชีวิตของนางรูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก ผู้พิพากษาศาลสูงสุดสหรัฐ ก็อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการอนุมัติมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจครั้งนี้ด้วย
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยเจ้าหน้าที่เฟดหลายราย รวมทั้งนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด มีกำหนดกล่าวแถลงการณ์ต่อคณะกรรมาธิการในสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้