ยูบีเอส โกลบอล เวลธ์ แมเนจเมนท์ แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในระยะนี้ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีมาก ซึ่งรวมถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
นายเคลวิน เทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการลงทุนประจำภูมิภาคของยูบีเอส โกลบอล เวลธ์ แมเนจเมนท์ เปิดเผยในรายการ "Squawk Box" ของสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า "ในช่วงเวลาที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงเป็นสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่สามารถป้องกันความเสี่ยงได้ดีมาก และเราคาดว่า ทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในสิ้นปีนี้"
นายเทย์ยังกล่าวด้วยว่า อัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ทองคำมีความน่าดึงดูดใจ โดยหากอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่อไปตามที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณไว้ก่อนหน้านี้ ต้นทุนค่าเสียโอกาส (opportunity cost) ของการถือครองทองคำจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ
นอกจากนี้ นายเทย์ยังได้แนะนำให้นักลงทุนเข้าลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลจีน หลังจาก ฟุตซี่ รัสเซล (FTSE Russell) ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนีหุ้นระดับโลก ประกาศนำพันธบัตรของรัฐบาลจีนไปรวมในการคำนวณดัชนี World Government Bond Index โดยจะมีผลตั้งแต่เดือนต.ค. 2564 ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินหลายพันล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่จีน
ทั้งนี้ นายเทย์กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลจีนอยู่ที่ 2.5% ซึ่งสูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค และสูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐซึ่งอยู่ที่ระดับเพียง 0.6% และดีกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในยุโรปที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับติดลบ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า พันธบัตรรัฐบาลจีนซึ่งมีงบดุลที่แข็งแกร่งนั้น ให้ผลตอบแทนที่สูงมาก