ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่งกว่า 1% หลุด 1,890 ดอลลาร์ ปัจจัยดอลล์แข็งกดดันตลาด

ข่าวต่างประเทศ Wednesday October 7, 2020 21:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 1% หลุดระดับ 1,890 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์

ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ณ เวลา 21.38 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 22.30 ดอลลาร์ หรือ 1.16% สู่ระดับ 1,886.50 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนจับตาความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์หันกลับมาให้การสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังสั่งระงับการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความอีกครั้งในวันนี้ ระบุว่า เขาจะลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายฉบับ ซึ่งจะเยียวยาประชาชนและบางภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระงับการเจรจากับพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ จนกว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.

ปธน.ทรัมป์เรียกร้องให้สภาคองเกรสให้การอนุมัติมาตรการต่างๆที่เขาจะลงนาม ซึ่งได้แก่ การแจกเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันคนละ 1,200 ดอลลาร์ รวมทั้งการอัดฉีดวงเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบิน และวงเงิน 1.35 แสนล้านดอลลาร์สำหรับธุรกิจรายย่อย

การตัดสินใจดังกล่าวของปธน.ทรัมป์มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาเรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากสหรัฐยังคงจำเป็นต้องใช้มาตรการทางการเงินและการคลังเพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น มิฉะนั้นส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน

นอกจากนี้ การตัดสินใจของปธน.ทรัมป์ยังเกิดขึ้น ท่ามกลางการเจรจาที่ชะงักงันระหว่างนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เกี่ยวกับวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยพรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ทำเนียบขาวเสนอวงเงิน 1.6 ล้านล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือนก.ย.ในวันนี้ รวมทั้งการประชันวิสัยทัศน์ของคู่ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐ ระหว่างนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรครีพับลิกัน และนางคามาลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ในการดีเบตที่จะมีขึ้นในวันนี้ เวลา 21.00 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันพรุ่งนี้เวลา 08.00 น.ตามเวลาไทย

สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางทั่วโลกได้ขายทองคำสุทธิในเดือนส.ค. หลังจากที่ได้ซื้อสุทธิยาวนานถึง 1 ปีครึ่ง ซึ่งได้ช่วยหนุนให้ราคาทองพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

WGC เปิดเผยว่า ธนาคารกลางต่างๆได้ขายทองคำสุทธิจำนวน 12.3 ตันในเดือนส.ค. และขณะนี้ธนาคารกลางทั่วโลกถือครองทองคำราว 35,000 ตัน มูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์

ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำจำนวน 656 ตันในปี 2561 ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในรอบ 50 ปี ส่วนปีที่แล้วซื้อจำนวน 650 ตัน

ทั้งนี้ ราคาทองอยู่ที่ราว 1,500 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงต้นปีนี้ และพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,072.50 ดอลลาร์ในเดือนส.ค. ก่อนที่จะปรับตัวลงสู่ราว 1,900 ดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ