สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) ขานรับความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แสดงมุมมองบวกว่า มีแนวโน้มสูงที่ทำเนียบขาวจะบรรลุข้อตกลงกับพรรคเดโมแครตเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.3 ดอลลาร์ หรือ 0.23% ปิดที่ 1,895.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ 23.876 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.8 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 864 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 20.90 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 2,403 ดอลลาร์/ออนซ์
ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากปธน.ทรัมป์กล่าวเมื่อวานนี้ว่า มีแนวโน้มสูงที่ทำเนียบขาวจะบรรลุข้อตกลงกับสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ พร้อมระบุว่า การเจรจาของทั้งสองฝ่ายเป็นไปด้วยดี และมีการพูดคุยกันถึงการทำข้อตกลงที่มากกว่าการช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบิน
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์เรียกร้องให้สภาคองเกรสให้การอนุมัติมาตรการต่างๆที่เขาจะลงนาม ซึ่งได้แก่ การแจกเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันคนละ 1,200 ดอลลาร์ รวมทั้งการอัดฉีดวงเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบิน และวงเงิน 1.35 แสนล้านดอลลาร์สำหรับธุรกิจรายย่อย
ทางด้านนายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า ทำเนียบขาวต้องการที่จะให้สภาคองเกรสอนุมัติกฎหมายช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจเป็นรายมาตรการ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนหน้า
ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า การเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐเมื่อคืนนี้ เป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 840,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 825,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ 849,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้