สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ รวมทั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในยุโรปและสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.6 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ 1,892.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 38.7 เซนต์ หรือ 1.64% ปิดที่ 24.033 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 11.1 ดอลลาร์ หรือ 1.31% ปิดที่ 859.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 2,220.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยล่าสุดดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1,890 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยแม้ผลการสำรวจของทุกสำนักต่างระบุตรงกันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะพ่ายแพ้ต่อนายโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่คะแนนเสียงจากผู้ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ และคะแนนเสียงจากหลายรัฐที่ไม่ใช่ฐานเสียงของทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน อาจเป็นปัจจัยชี้ขาดผลการเลือกตั้งครั้งนี้
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดยรายงานระบุว่า ขณะนี้ทั่วโลกติดเชื้อโควิด-19 จ่อแตะ 47 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 1,200,000 ราย โดยสหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต ขณะที่มีผู้ติดเชื้อกว่า 9.4 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 236,000 ราย
ทั้งนี้ หลายประเทศในยุโรป เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี ต่างประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังพบว่าอัตราผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วยุโรปพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง