สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์มื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำก่อนที่จะรู้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 17.9 ดอลลาร์ หรือ 0.95% ปิดที่ 1,910.4 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค. 2563
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 30.1 เซนต์ หรือ 1.25% ปิดที่ 24.334 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 15.5 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 875 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 77.40 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 2,297.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.61% แตะที่ 93.5534 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ เมื่อดอลลาร์อ่อนค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
นักลงทุนยังคงรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ เนื่องจากสหรัฐเป็นประเทศขนาดใหญ่และใช้โซนเวลาแตกต่างกัน จึงทำให้แต่ละรัฐมีเวลาเปิดหีบและปิดหีบเลือกตั้งไม่เหมือนกัน โดยรัฐจอร์เจีย อินเดียนา เคนตั๊กกี เซาท์แคโรไลนา เวอร์มอนท์ และเวอร์จิเนีย เป็นรัฐกลุ่มแรกที่ปิดหีบเลือกตั้ง และเริ่มนับคะแนนเร็วที่สุดของสหรัฐ โดยตรงกับวันนี้เวลา 07.00 น.ตามเวลาไทย นอกจากผลการเลือกตั้งแล้ว นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 4-5 พ.ย. และการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้