สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงเกือบ 100 ดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังมีรายงานความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 22 ดอลลาร์ หรือ 1.19% ปิดที่ 1,876.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 76.1 เซนต์ หรือ 3.21% ปิดที่ 24.462 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 25.3 ดอลลาร์ หรือ 2.92% ปิดที่ 892.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 27.80 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 2,471.40 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลง 97.3 ดอลลาร์ หรือ 4.99% ปิดที่ 1,854.4 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นการร่วงลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 7 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2556 เนื่องจากนักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากบริษัทไฟเซอร์ประกาศว่า ผลการทดลองบ่งชี้ว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งไฟเซอร์และ BioNTech พัฒนาร่วมกัน มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ความต้องการทองคำในประเทศจีนและอินเดียเริ่มฟื้นตัวขึ้น รวมทั้งปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงเดินหน้าออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
นักลงทุนจับตาสถานการณ์การเมืองในสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังจากนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้แนะนำไม่ให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง ขณะที่นายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐยืนยันว่า ปธน.ทรัมป์มีสิทธิ์ 100% ในการตั้งคำถามเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง แม้นายโจ ไบเดน ได้ออกมาประกาศชัยชนะแล้วก็ตาม